กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ~
1 ในแท็กไลน์ตำนานของเจ้านกพูดได้ที่เป็นพาดหัวนี้ สร้างการจดจำแบรนด์เภสัชได้ดีในส่วนของกลุ่มสินค้า “แป้งเย็น” แต่ก็เป็นอันรู้กันว่าในบ้าน “รวมใจโปรดักส์” ที่มีอายุกว่า 50 ปีนี้ มีสินค้าที่เด่นไม่แพ้กันอย่าง “โลชั่นสปริงซอง” ที่มี Signature อย่างการแถมลิปไปพร้อมกับตัวโลชั่น ในยุคที่คนไทยยังใช้โลชั่นเพราะผิวแห้ง มากกว่า ใช้เพราะอยากขาว
จริงๆ แล้วในปัจจุบันเภสัชมีสินค้าที่มุ่งเน้นการทำตลาดอยู่ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ อย่างโลชั่น, แป้งเย็น, สบู่ และเซรั่มบำรุงผิวหน้า และยังไม่นับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ที่ยังคงวางจำหน่าย แต่ไม่ได้ทำตลาดอย่างเต็มที่ เช่น เภสัช สกิน ไลท์เทนนิ่ง (ครีม และโลชั่นบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ที่เกิดมาในช่วงเริ่มต้นของค่านิยมอยากผิวขาวใส), เนเจอรัล อี ครีม, แป้งฝุ่นสำหรับผิวหน้า (ที่มาในช่วงที่แป้งฝุ่นมีสีกระป๋องเล็กสำหรับวัยรุ่นนี้กำลังฮอตเข้าที่), โรลออน, โคโลญจน์ และล่าสุดก็ซุ่มออกแป้งรองพื้นตลับออกมาเมื่อไม่นานนี้ รวมถึงสินค้าแบรนด์ “สปริงซอง” ที่มีทั้งโลชั่น, แป้งหอม และแป้งน้ำ ซึ่งก็ไม่ได้มุ่งเน้นการทำการตลาดมากเช่นกัน แต่ก็ยังคงเป็นที่พูดถึง
จนมาถึงยุคที่คนไทยใช้โลชั่นเพราะอยากขาวกระจ่างใส เภสัชก็ยังคงทำถึง แถมยังรักษาพื้นที่ในตลาดโลชั่นราคาถูกได้ ถึงบางคนจะบ่น ๆ ว่าใช้แล้วขนยาวขึ้นแบบงง ๆ แต่คนใช้ก็ยินดีที่จะใช้อยู่ดี แม้แต่ผู้เล่นนอกถิ่นอย่างยูนิลีเวอร์ที่มีพอร์ตสินค้า “โลชั่น” อยู่ 2 แบรนด์ใหญ่ ๆ อย่างซิตร้า และวาสลีน ก็ยังต้องเล่นกับตลาดโลชั่นราคาถูก
แต่เมื่อส่งแบรนด์ “เพียวไลน์ ออร่า” ที่แทบจะเรียกได้ว่าทำตลาดที่ไทยเพียงที่เดียว (ร่วมกับอีกประเทศคืออินโดนีเซีย ที่ใช้แบรนด์ Pureline Hijab Fresh ด้วยจุดประสงค์เพื่อเจาะตลาดหญิงสาวชาวมุสลิมในประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นหลัก) แม้จะได้สาว “ซอ จียอน” เป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้ แต่ยูนิลีเวอร์ก็เป็นฝ่ายแพ้ ต้องถอยกลับไปสู้ในตลาดโลชั่นระดับกลาง
แม้ว่าสินค้าจะเหมือนสินค้าธรรมดา ๆ แต่รายได้ของบริษัทที่มีอายุยาวนานกว่า 50 ปีก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
บจก. รวมใจโปรดักส์ แปรสภาพมาจาก หจก. รวมใจโปรดักส์ ที่จัดตั้งในวันที่ 1 มีนาคม 2526 (และแปรสภาพมาเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556) ซึ่งมีกรรมการบริษัทจากครอบครัว “เรืองสมบูรณ์” อยู่ 2 ท่าน ได้แก่ นางสาวหฤทัย เรืองสมบูรณ์ และนายโดม เรืองสมบูรณ์ ซึ่งทั้งคู่มักไม่ค่อยปรากฏให้เห็นบนหน้าสื่อสักเท่าไหร่ กลยุทธ์การตลาดก็ไม่ได้หวือหวามาก
พอจะเห็นก็แค่การโหมงบลงโฆษณาทีวีของตัวสินค้า 4 กลุ่มใหญ่ ที่ยังคงอัดฉีดงบโฆษณาลงอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะตัวโลชั่น แทบเรียกได้ว่าเน้น Product Branding เกือบ 100% โดยแทบไม่ใช้ CEO Branding เลย เพราะฐานลูกค้าส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มคนต่างจังหวัด ที่ยังนิยมรับชมสื่อทีวีเป็นหลัก
ครั้งล่าสุดที่พอจะเห็น 1 ใน 2 คนนี้ให้สัมภาษณ์สื่อก็ต้องย้อนจนไปถึงปี 2556 เลยทีเดียว และความธรรมดา ราคาเหมาะสม และผลลัพธ์ที่ดีก็สร้างรายได้ให้กับแบรนด์นี้ได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท
ปี 2563 : รายได้ 1,262 ล้านบาท : กำไร 84 ล้านบาท
ปี 2564 : รายได้ 1,219 ล้านบาท : กำไร 81 ล้านบาท
ปี 2565 : รายได้ 1,038 ล้านบาท : กำไร 58 ล้านบาท
ปี 2566 : รายได้ 1,215 ล้านบาท : กำไร 74 ล้านบาท
อ้างอิง
- https://www.bhaesaj.co.th/th/about
- https://www.globalcosmeticsnews.com/unilever-indonesia-follows-up-on-success-of-first-hijab-specific-shampoo-with-new-moisturizer/
- https://www.facebook.com/PurelineAuraTH/videos/578933862770190
- https://www.posttoday.com/business/212222
- งบการเงินประจำปี 2563 – 2566 ที่ บจก. รวมใจโปรดักส์ นำส่งให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์