เมื่อวานนี้ (30 มีนาคม 2568) สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศจุฬาราชมนตรี โดยกำหนดให้ในวันนี้ (31 มีนาคม 2568) เป็นวันอีฎิ้ลฟิตริ (Eid al-Fitr) ซึ่งถือเป็นวันเฉลิมฉลองสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลก ซึ่งมาหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฎอน (Ramadan) อันเป็นเดือนแห่งการถือศีลอดและปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัด
📅 วันอีฎิ้ลฟิตริคือวันอะไร?
วันอีฎิ้ลฟิตริ ถือเป็นวันแรกของเดือนเชาวาล (Shawwal) ตามปฏิทินอิสลาม นับเป็นวันหยุดสำคัญเพื่อเฉลิมฉลองการจบเดือนรอมฎอน โดยคำว่า “อีฎิ้ล” แปลว่า “การกลับมา” หรือ “การเฉลิมฉลอง” ส่วนคำว่า “ฟิตริ” หมายถึง “การแตกศีลอด” เมื่อมารวมกันจึงมีความหมายว่า “วันแห่งการเฉลิมฉลองหลังการถือศีลอด”
🌙 ความสำคัญของวันอีฎิ้ลฟิตริ
วันอีฎิ้ลฟิตริ มีความสำคัญต่อมุสลิม เนื่องจากถือเป็นวันขอบคุณพระเจ้า (อัลลอฮ์) สำหรับการให้พลังและความสามารถในการถือศีลอดตลอดเดือนรอมฎอน และยังเป็นวันแห่งความสุข ความเมตตา และการให้อภัย ซึ่งชาวมุสลิมจะเน้นการช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะการจ่ายซะกาตอัลฟิตร์ (Zakat al-Fitr) หรือการบริจาคให้ผู้ยากไร้ ก่อนวันอีฎิ้ลหรือก่อนละหมาดอีฎิ้ลในตอนเช้า นอกจากนี้ยังเป็นวันแห่งการรวมตัวของครอบครัวและชุมชน โดยผู้คนจะเยี่ยมเยียนกัน สวมใส่เสื้อผ้าใหม่ และทักทายด้วยคำว่า “Eid Mubarak” หรือ “อีฎมูบาร็อก” ที่แปลว่า อีฎิ้ลที่เปี่ยมพร
🕌 ทำไมวันแรกของเทศกาลจึงมีการไปมัสยิด?
โดยปกติในเช้าวันอีฎิ้ลฟิตริ ชาวมุสลิมจะไปมัสยิดหรือพื้นที่รวมตัวกลางแจ้งเพื่อร่วมกันละหมาดอีฎิ้ล (Eid Prayer) ซึ่งเป็นละหมาดพิเศษที่มีเฉพาะวันอีฎิ้ลเท่านั้น ซึ่งการละหมาดอีฎิ้ล ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของชุมชนมุสลิม นอกจากนี้ยังมีการฟังคุฏบะฮ์ หรือคําสอนศาสนา เพื่อเตือนใจเกี่ยวกับความดีงาม การให้อภัย และการใช้ชีวิตอย่างมีศรัทธา











