อย่างที่เราทราบว่าการทำสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบันต้องอาศัย Social Media ในการขับเคลื่อนให้ผลงานของเราไปถึงผู้อ่านหรือผู้ชมให้ได้ ซึ่งการพึ่งพา Social Media มากจนเกินไปจึงส่งผลถึงวงการสื่อในยุคปัจจุบันนี้อย่างมาก ทั้งการที่แพลตฟอร์มพยายามปรับ Algorithm และทำให้ผลงานของแต่ละสำนักข่าวถดถอยเป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งการที่สำนักข่าวต้องทำให้ได้ตามยอดที่ลูกค้าวางไว้อีก
แต่ก็มีสำนักข่าวหนึ่งที่กล้าเสี่ยง กล้าลุย และเรียกได้ว่า “เป็นคนแรก” ที่กล้าลองด้วยซ้ำ ในการที่ทำสำนักข่าวท้องถิ่นที่กลับมาอยู่บนเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว และไม่มี Social Media Account เลยแม้แต่แพลตฟอร์มเดียว และเจ้านั้นก็คือ Gazetteer San Francisco นั่นเอง
Byron Perry ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสำนักข่าว Gazetteer ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารให้กับ Coconuts Media, เป็นประธานกรรมการของสมาคมผู้จัดพิมพ์เอเชีย (The Society of Publishers in Asia) และเป็นบรรณาธิการให้กับ Variety, The Phnom Penh Post และ San Francisco magazine. ได้กลับมาลุยในสมรภูมินี้ และได้เริ่มต้นโพสต์ “บทบรรณาธิการ” บนเว็บไซต์ของ Gazetteer ไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 โดยกล่าวว่า
“เราเชื่อว่าสาเหตุหลักที่ทำให้อุตสาหกรรมสื่อล้มเหลวนั้น เนื่องมาจากอิทธิพลที่เป็นอันตรายของบริษัทที่ทำแพลตฟอร์มค้นหาและสื่อสังคมออนไลน์ต่อวิธีการเผยแพร่และสร้างรายได้จากข่าวสาร ระบบนิเวศน์ข้อมูลที่ครอบงำโดยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้เผยแพร่ข่าว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ให้ข้อมูลหลักในการสร้างข้อเท็จจริงดั้งเดิมและน่าเชื่อถือก็ตาม”
“สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราเชื่อว่าผลกระทบด้านลบของบริษัทเหล่านี้ต่ออุตสาหกรรมข่าวไม่เพียงแต่มาจากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของอุตสาหกรรมสื่อเท่านั้น เช่น การเพิ่มขึ้นของการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายและ AI แต่ยังมาจากหลายวิธีที่พวกเขาจงใจโต้ตอบด้วย และในที่สุดก็ต้องขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มอยู่ดี”
“เราเชื่อว่าบริษัทสื่อจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าหากพวกเขาไม่เคยมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเลย และนั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจที่จะเขียนและเผยแพร่เรื่องราวข่าวที่มีผลกระทบ และเพิกเฉยต่อการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมของทุกแพลตฟอร์มที่จัดลำดับความสำคัญของเรา”
ซึ่งสำนักข่าว Gazetteer San Francisco จะเน้นแนวทางการนำเสนอข่าวท้องถิ่น และเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ที่มีการจ่ายค่าสมาชิก (Subscription) โดยจะเผยแพร่เนื้อหาไปยังสมาชิกที่ได้ทำการชพระเงินไปแล้วผ่านทางอีเมลและ SMS ต่อไป โดยจะไม่สร้างบัญชีบนสื่อสังคมออนไลน์เลย และไม่ได้สนใจวิธีการสร้าง SEO ด้วยซ้ำ เพื่อทำให้การนำเสนอเนื้อหาเป็นไปอย่างดีขึ้น และยังน่าสนใจมากขึ้นด้วย
ซึ่งปัจจุบันสำนักข่าวแห่งนี้มีทีมงานทั้งหมด 4 คน ผู้บริหารอีก 2 คน และกำลังค้นหานักข่าวเพื่อมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึง Freelance ด้วย โดยจะเน้นเนื้อหาแค่ในซานฟรานซิสโกเท่านั้น ซึ่งพวกเขาจะมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่สกู๊ปและเรื่องราวที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
เขายังบอกอีกว่า สำนักข่าวแห่งนี้ไม่มีวาระทางการเมือง และจะขอความคิดเห็นจากมุมมองที่หลากหลาย และถึงแม้ว่าการทำสำนักข่าวแห่งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรมข่าวกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีพังทลายลง แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านเทคโนโลยี เขากลับชื่นชมสิ่งดีๆ ที่เทคโนโลยีได้รับ แต่ก็ไม่อายที่จะชี้ให้เห็นถึงผลเสียของมัน
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องซานฟรานซิสโก? เขาได้กล่าวในบทบรรณาธิการว่า “คิดว่านี่เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการเปิดตัวแนวคิดที่ล้มล้างกระบวนทัศน์เช่นนี้ ในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีของโลก ที่ซึ่งผู้คนจำนวนมากเปิดรับสิ่งใหม่ๆ แต่เรายังเชื่อว่าพื้นที่แห่งนี้ยังมีคนที่เข้าใจที่อยากจะรับสื่อแบบนี้ เนื่องจากพื้นที่นี้มีคนทำงานด้านเทคโนโลยีที่เข้าใจปัญหา และเป็นตลาดที่พร้อมสำหรับเรา”
โดยสำนักข่าว Gazetteer San Francisco นั้นจะเน้นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะเผยแพร่ผลงานลงบนเว็บไซต์ https://sf.gazetteer.co/ โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกในราคาเดือนละ 7.77 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราคาต่อปีที่ 77 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ได้เช่นกัน
นี่เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มคนที่พยายามทำสิ่งใหม่ๆ และกล้าที่จะเสี่ยงกับงานที่ถูกท้าทายอยู่ทุกวันว่า AI จะเข้ามาแทน แต่ถ้าลองมองย้อนกลับไปจริงๆ ผู้เขียนยังคงเชื่อว่า AI จะมีหน้าที่ในการ “ช่วยงาน” มากกว่าการ “ทดแทน” อยู่ดี หากเราเข้าใจแก่นของผู้รับสารจริงๆ รวมไปถึงหากเรากล้าที่จะฉีกกรอบที่มีอยู่เดิม และกล้าพัฒนา สุดท้ายเวลาจะพิสูจน์ด้วยตัวของมันเอง
