fbpx

มีการเปิดเผยเนื้อหาของการ์ตูน


ทุกท่านคิดว่า … ความรักในแง่มุมของทุกท่าน เป็นอย่างไรบ้างครับ?

หวานเยิ้มหยดย้อยดั่งน้ำผึ้งเดือนห้าโดนน้ำตาลทรายกลบ

ขมปี๋แบบสลบดั่งน้ำเต้าทองรสบอระเพ็ด

เผ็ดซ่านสะท้านทรวงดั่งพริกหม่าล่าเสฉวน

หรืออบอวนเอื่อยเฉื่อยดั่งก้อนเมฆที่เคลื่อนไปช้า ๆ ตามเส้นทางที่นิ่งสงบ

แต่ถ้าจะถามผม ผมคิดว่าความรักที่กลมกล่อมและพอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป คือความรักที่ติดเปรี้ยวนิด หวานหน่อย แต่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ คอยเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันและกัน

ที่พ่นคำคมไปเมื่อสักครู่ ถามว่าตัวเองมีแฟนหรือยัง … ยังครับ และคิดว่าไม่น่าจะได้มี เพราะตัวผมเองก็หน้าเหียก แถมคิดว่าไม่น่าจะดูแลใครได้นานด้วย กอปรกับได้เห็นถึงเคสความรักสุดโหดร้ายที่แวดล้อมหน้าไทม์ไลน์โลกโซเชียล จึงก่อเป็นความคิดว่าความรักมันช่างน่ากลัว

แต่เมื่อผมได้มาพบกับอนิเมะเรื่องนี้ มันช่วยขับกล่อมให้ผมคิดอย่างนั้นน้อยลง ผลงานเนื้อเรื่องและวาดภาพโดย “อ. HERO” และ “อ. ฮางิวาระ ไดสุเกะ” ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2021 ผลงานนั้นมีชื่อเรื่องที่จับใจ และจูงผมเข้าสู่โลกของพวกเขา … “โฮริมิยะ สาวมั่นกับนายมืดมน”

“โฮริ” และ “มิยะ”

“โฮริมิยะ สาวมั่นกับนายมืดมน” (Hori-san to Miyamura-kun : Horimiya) ซีรีส์มังงะ (หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น) แนวโชเน็ง โรแมนติก เสี้ยวหนึ่งของชีวิต จากการออกแบบของ “อ.อาดาจิ ฮิโรกิ” หรือนามปากกา “HERO” โดยเริ่มต้นเป็นการ์ตูนสั้น 4 ช่องลงในช่องทางเว็บไซต์ของตนเองอย่าง dka-hero.me ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 – ธันวาคม ปี 2009 เป็นจำนวน 140 ตอน (ก่อนจะวาดตอนโบนัสเพิ่มขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน รวมแล้วมากกว่า 600 ตอน) ก่อนที่จะถูกนำมาเป็นหนังสือการ์ตูนรวมเล่มทั้งหมด 10 เล่ม ในวันที่ 22 ตุลาคม 2008 – 22 ธันวาคม 2011 และโบนัสอีก 15 เล่ม ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2012 – 16 กรกฎาคม 2021 ภายใต้ชายคาของสำนักพิมพ์ Square Enix ซึ่งในเวลาต่อมาได้ถูกนำไปผลิตเป็น OVA (Original Video Animation) ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2012 – 25 พฤษภาคม 2021 รวมทั้งหมด 6 ตอน 

จุดเปลี่ยนสำคัญ คือการเข้ามาร่วมงานของ “อ.ฮางิวาระ ไดสุเกะ” ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้พลิกโฉมอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มจากการย่อชื่อ “Hori-san to Miyamura-kun” ให้เหลือเพียง “Horimiya” และมีการออกแบบลายเส้นตัวละครใหม่ให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น การคอลแลบกันโดยมี อ.HERO ดูแลเนื้อเรื่อง และมี อ.ฮางิวาระ ดูแลงานภาพ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2011 ตีพิมพ์ลงนิตยสาร Monthly G-Fantasy และฉบับรวมเล่มทั้งหมด 17 เล่ม ตั้งแต่ 27 มีนาคม 2012 – 18 กรกฎาคม 2023

ในปี 2021 โฮริมิยะเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้าง จากการถูกสตูดิโอย่อยของ A-1 Pictures อย่าง “CloverWorks” นำมาผลิตเป็นอนิเมชั่นซีรีส์ ฉายตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม – 4 เมษายน เป็นจำนวน 13 ตอน ก่อนที่จะถูกต่อยอดเป็นฉบับซีรีส์คนแสดง ฉายวันที่ 17 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม ปีเดียวกัน เป็นจำนวน 7 ตอน และถูก CloverWorks ผลิตภาคส่วนเติมเต็ม ฉายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 23 กันยายน 2023 เป็นจำนวนอีก 13 ตอน

เนื้อเรื่องของโฮริมิยะ จะกล่าวถึงเรื่องราวความรักสุดหวานอมเปรี้ยว ของสาวป๊อปในโรงเรียน “โฮริ เคียวโกะ” และหนุ่มอินโทรเวิร์ตหลังห้อง “มิยามุระ อิซึมิ” การพบกันโดยบังเอิญของทั้งคู่ และการได้รับรู้ชีวิตอีกด้านของกันและกัน เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสู่ความสัมพันธ์ของพวกเขา

“โฮริมิยะ สาวมั่นกับนายมืดมน” ฉบับซีรีส์คนแสดง

จำแนกความรักจาก “โฮริมิยะ และผองเพื่อน”

อนิเมะเรื่องนี้มีหลากหลายความสัมพันธ์มาก และแต่ละคู่นั้นต่างก็มีแง่มุมที่ลึกลงไปอีก เดี๋ยวผมพาไปดู และพาไปเจาะกันคร่าว ๆ ดีกว่า ว่ามีความสัมพันธ์แบบไหนบ้าง ที่ประกอบอยู่ในการ์ตูนรอมคอมเรื่องนี้

“รักแบบเปรี้ยวนิด หวานหน่อย”

เริ่มต้นจากคู่เอกของเรากันก่อนเลย กับคู่ของ “โฮริ” และ “มิยามุระ” ที่มองจากนิสัยภายนอกแล้ว คิดว่าคงไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ จนได้พบกับเหตุการณ์การบาดเจ็บของน้องชายเคียวโกะ “โฮริ โซตะ” ที่ทำให้ทั้งคู่ได้โคจรมาเจอกันแบบไม่ทันตั้งตัว (สมกับวลีที่ชาวเน็ตได้กล่าวไว้ว่า “น้องได้แผล พี่ได้ผัว”–)

นิสัยใจคอ และเบื้องลึกของทั้งสองคนนั้น คนละด้านกับที่เห็นภายนอกแบบพลิกขั้ว เริ่มจากเคียวโกะที่เป็นสาวมั่น แท้จริงแล้วเธอแทบจะติดบ้าน คอยดูแลงานบ้านทุกอย่าง ทั้งทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน ซื้อของมาทำอาหารให้คนในบ้านทั้งน้องชาย แม่ และพ่อได้ทาน แถมยังชอบสื่อบันเทิงแนวสยองขวัญเลือดสาด และเป็นสายมาโซคิสม์ ส่วนมิยามุระที่เบื้องหน้าดูเงียบขรึม แท้จริงนั้นเขาเป็นสายแฟชั่น ทั้งสัก เจาะหู เจาะปาก แต่งตัวมีสไตล์ แถมยังเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของร้านเค้กอิโอริซึ่งเป็นชื่อแม่ของเขาด้วย

ปัญหาส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์คือการรบเร้าให้มิยามุระพูดจารุนแรงหรือตบตีตน ทั้งที่ฝั่งนั้นไม่เต็มใจเสียเท่าไหร่ (ด้วยความที่เธอเป็นสายมาโซคิสม์) หรือกระทั่งการหึงหวงเกินเหตุ ทำให้ผิดใจกันบ่อย ๆ จนเพื่อนรอบข้างสังเกตได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ลึก ๆ แล้วมิยามุระก็ยังรักเคียวโกะแบบเหนียวแน่น เพราะเธอเป็นส่วนสำคัญที่ฉุดเขาออกมาจากโลกที่มืดมนของตนได้ แถมเขาก็ดูจะชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ และหวงเธอมิใช่น้อยเลยเชียว

“รักแบบไม่สนจุดอ่อน”

ผมกำลังจะพูดถึง 2 สมาชิกสภานักเรียน “เซ็นโกคุ คาเครุ” ประธานนักเรียนผู้เคร่งครัดในชีวิต และ “อายาซากิ เรมิ” สาวผมชมพูสุดสดใส เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนชาย แต่ถึงอย่างนั้น เรมิเลือกที่จะเมินผู้ชายเหล่านั้น และสนใจในตัวเซ็นโกคุ

ที่บอกว่าไม่สนจุดอ่อนนี่ ต้องจำแนกกันก่อน … จุดอ่อนของเรมิคือความซุ่มซ่าม และฝีมือการทำอาหารที่ห่วย ทำให้ขาดความมั่นใจ ในขณะที่เซ็นโกคุเป็นคนที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก เขินง่าย กลัวแมลง ทำอาหารไม่เก่ง (พอ ๆ กับเรมิ) ร่างบางจนต้องสวมชุดหนา ๆ แถมด้วยความที่รับอิทธิพลความเคร่งระเบียบจากพ่อของตน ที่กำชับว่าการมีแฟนในวัยเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ควร

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาเป็นเขา และด้วยความที่เธอเป็นเธอ ทำให้ทั้งคู่สนิทกัน และเป็นแฟนกันในที่สุด (โมเมนต์ตอนอยู่ด้วยกันน่ารักมาก อยากให้ไปสัมผัสกันเอาเอง!)

“รักต้องรอ”

ขอหยิบตัวละครรองที่อาจจะไม่ค่อยเด่นมายกในหัวข้อนี้ก็แล้วกันครับ กับเพื่อนสนิทสมัย ม.ต้นของมิยามุระ “ชินโด โคอิจิ” ที่ได้รุกจีบจนได้เป็นแฟนกับสาวต่างโรงเรียน “อิจิโจ จิกะ” 

จากเนื้อเรื่อง ชินโดไม่มีความมั่นใจในตัวเองว่าจะดูแลจิกะได้ดี เพราะตนค่อนข้างเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งจนได้เรียนซ้ำชั้น แต่ไม่รู้เลยว่าจิกะเองก็มีใจให้เขาเช่นกัน แถมยังยอมรอเขาเรียนให้จบอีกต่างหาก

“รักแบบแอบรัก”

ต้องขออภัยล่วงหน้า หากหัวข้อนี้จะทำให้ท่านผู้อ่านเกิดการสับสน เพราะผมกำลังจะพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนต่อไปนี้

“อิชิคาวะ โทรุ” และ “โยชิคาวะ ยูกิ” สองเพื่อนซี้ของเคียวโกะ ทั้งคู่สนิทสนมกันมากจนตัวแทบจะติดกันแจ แต่ภายใต้ความซี้กันก็ได้ก่อเป็นความสัมพันธ์แบบไม่รู้ตัว ทั้งคู่ต่างมีความรู้สึกชอบกันและกัน แต่เลือกที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ

เช่นเดียวกับ “โควโนะ ซากุระ” สาวสุดแกร่งแห่งสภานักเรียน ที่ได้ชื่นชอบนิสัยอบอุ่นของโทรุ และรู้สึกหวั่นไหวในจิตใจเวลาที่ได้เจอกับเขา แต่เมื่อเธอได้พบกับโทรุที่เดินคู่กับยูกิ จังหวะนั้นเองที่ทำให้เธอรู้สึกอกหักหนักมาก

ซึ่งยังอยู่ในความจริงข้อหนึ่งว่า “โทรุและยูกิยังไม่บอกชอบกัน”


“รักแบบคลั่งไคล้”

ทิ้งทวนในบทความนี้ด้วยหัวข้อที่เบาสมองกันบ้างดีกว่า เพราะ 2 คนที่ยกมาต่อไปนี้ อาจจะไม่เด่นมากนัก แต่ให้มองว่าเป็นตัวละครที่เสริมให้เรื่องนี้บันเทิงดีกว่า

เริ่มจาก “คิตะฮาระ อาโออิ” เพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันของ “อิอุระ โมโตโกะ” ซึ่งเธอก็ดูเหมือนจะแอบชอบคิตะฮาระอยู่ วันหนึ่งโมโตโกะได้ชวนคิตะฮาระไปติวหนังสือที่บ้านของเธอ แต่เมื่อไปถึงบ้าน ทั้งคู่ก็ได้พบกับพี่ชายของโมโตโกะที่หวงน้องสาวมาก ๆ อย่าง “อิอุระ ชู” แต่เจ้ากรรม คิตะฮาระดันเห็นว่าชูเท่มาก ๆ เสียอย่างนั้น และดูเหมือนเขาจะสนใจในตัวพี่ชายสุดเท่คนนี้ไปเสียแล้ว

อีกหนึ่งคนที่มีนิสัยคลั่งไคล้แบบสุดลิ่ม “วาตาเบะ อิจิโร่” เพื่อนของโทรุที่คลั่งไคล้ในตัวมิยามุระแบบสุด ๆ เขาได้แอบถ่ายรูปมิยามุระตั้งแต่ยังผมยาว จนมีแฟนและตัดผมสั้น เก็บเป็นคอลเลคชั่น ทั้งที่มิยามุระก็ไม่ทราบถึงนิสัยจุดนี้ของเขา ในขณะที่โทรุก็รู้สึกขนลุกในนิสัยตรงนี้ และเคียวโกะที่มีศักดิ์เป็นแฟนของมิยามุระก็ดูจะหึงหวงเอามาก ๆ ด้วย

นอกจากความสัมพันธ์ที่กล่าวมาทั้งหมด เรื่องของความสัมพันธ์แบบเพื่อนก็ยังเหนียวแน่นและรู้สึกประทับใจมาก ๆ ทั้งเพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนสมัยเรียน เพื่อนต่างวัย เพื่อนที่เคยไม่ไยดี หรือเพื่อนที่ชอบในสิ่งเดียวกัน เหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมชื่นชอบในการ์ตูนเรื่องนี้จวบจนปัจจุบัน

ส่วนตัวผมแนะนำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากทุกท่านสนใจเรื่องราวความรักหวานอมเปรี้ยวนี้ สามารถเปิด Netflix ชมอนิเมะได้ทั้งสองซีซั่น รวมถึงช่องทางสตรีมมิ่งอื่น ๆ และหนังสือการ์ตูนครบทุกเล่ม ภายใต้ลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์ Siam Inter Comics ที่ร้านหนังสือทั่วไปนะครับ

Content Creator

  • อภิวัฒน์ ช่วยแสง

    พอดแคสเตอร์ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นพิธีกรเกมโชว์ ชอบกิน ชอบเที่ยว ชอบคุยกับผู้คน เผลอ ๆ อาจจะชอบคนอ่านด้วย