fbpx

แม้เบื้องหน้าของซีรีส์เชื้อสายสเปน ที่ว่าด้วยเรื่องการโจรกรรมโรงกษาปณ์อย่าง Money Heist หรือทรชนคนปล้นโลก จะเหนือจริงเพียงใด แต่หากพินิจพิเคราะห์ถึงรายละเอียดของซีรีส์แล้ว Money Heist เสนอภาพของการดิ้นรนเอาชีวิตรอดในฐานะมนุษย์ ขณะเดียวกัน ผู้สร้างก็ได้ เสนอข้อพิพาททางศีลธรรม โดยมี ‘ความเป็นโจร’ เป็นข้อพิสูจน์หลักศีลธรรมนั้น

กล่าวคือ ถ้าคนๆ หนึ่งถูกห้อยท้ายด้วยความเป็นโจร หลักศีลธรรมหรือการเคารพกันและกันในฐานะมนุษย์ จะยังคงอยู่หรือไม่?

ฉะนั้นคงไม่แปลก ที่เราจะเอาใจช่วยกลุ่มโจรหน้ากากดาลีสุดระห่ำเหล่านี้ เพราะนอกจากภาพของการเป็นโจรก่อการร้ายที่ทั้งพวกเขาสร้างขึ้น (และรัฐสร้างให้) มันคือภาพของชั้นผู้น้อย ที่ต้องการจะเอาชีวิตรอด หรือแค่ต้องการที่จะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่ผลักไสพวกเขา 

‘การปล้น’ กลายเป็นการตั้งคำถามต่ออำนาจของรัฐ รวมถึงเป็นการยืนยันสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในการแสดงออกต่อสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับพวกเขา ขณะเดียวกัน การปล้นได้กลายเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ต่อต้านรัฐ เป็น Performance Art โดยมีสักขีพยาน เป็นผู้คนทั่วทั้งโลก

โดยประเด็นดังกล่าวข้างต้น ถูกพูดออกมาอย่างชัดเจน และตรงไปตรงมา เมื่อความมั่นคงในสายตาของรัฐถูกสั่นคลอน พวกเขาพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งอย่าง โดยไม่สนใจศีลธรรมทางสังคมและความเป็นมนุษย์ ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเพียงเหตุการณ์สมมุติ แต่น่าเศร้าที่เหตุสมมุตินั้น ชวนให้นึกถึงความเป็นจริงเสียเหลือเกิน ที่การไม่สยบยอมต่ออำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม กลายเป็นอาชญกรรมร้ายแรง และกระทบต่อความมั่นคงของรัฐได้

ฉะนั้นการที่เอาใจช่วยกลุ่มโจรหน้ากากดาลี คงเป็นเพราะทั้งเราและเขาต่างมีจุดร่วมทางอุดมการณ์บางอย่างที่เหมือนกัน

ขณะเดียวกัน Money Heist ยังชวนตั้งคำถามไปถึงคุณค่าของวัตถุไร้ชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง อาหารกระป๋อง หรือกระทั่งชีวิตเอง ว่ามีคุณค่ามากน้อยเพียงใดในสายตาของรัฐและประชาชน ซึ่งการเปรียบเทียบคุณค่าระหว่างวัตถุกับชีวิต เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งซีรีส์ และเมื่อเหตุการณ์การโจรกรรม คือพื้นที่หลักแห่งการตั้งคำถามและเปรียบเทียบดังกล่าว คุณค่าของสิ่งที่ถูกตั้งคำถามเลยเด่นชัด พร้อมกับคำตอบที่เราถามหาบางครั้งในสายตาของรัฐ วัตถุบางอย่าง ได้กลายเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์และควรกำจัด

แต่ที่ตลกร้ายคือ ชีวิตก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุที่ควรกำจัดได้เช่นกัน

เมื่อชีวิตนั้นไม่เป็นไปตามครรลองความดีของรัฐ ซึ่งการกำจัดที่ว่านั้น สามารถโหดเหี้ยมและเลือดเย็นอย่างที่เราไม่สามารถคาดถึงได้เลยและในสายตาของประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ กระทั่งคนที่หาก็เช้า ค่ำก็ไม่ได้กิน วัตถุบางอย่างที่ดูคร่ำครึและไร้ค่า กลับเป็นตัวแทนแห่งชีวิต เป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่ประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ เป็นแสงนำทางของไฟประภาคารที่รอเรือเก่าใกล้อับปางเข้ามาเทียบท่า และรอวันเวลาที่จะเกิดใหม่อีกครั้ง (แต่น่าเศร้าที่บางคนได้เพียงแค่เห็นแสงไฟเท่านั้นเอง)

นอกจากนี้ วัตถุเหล่านั้นยังพาเราลงไปสำรวจความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวอย่างเต็มที่ถึงที่มา และแรงปรารถนาในการใช้ชีวิต การปล้นได้กลายเป็นสิ่งบันดาลใจอันรุนแรงที่ปลุกเร้าทุกตัวละครให้มีชีวิต ปฏิเสธการมีอยู่ของระบบดั้งเดิมทั้งรูปธรรมและนามธรรม รวมถึงแรงกระเพื่อมนั้นนำไปสู่การไม่สยบยอมต่อโครงสร้างอันผิดรูปที่รัฐสร้างขึ้น และสรรเสริญต่อความแตกต่าง หลากหลายของมนุษย์ ทั้งในเรื่องความเชื่อ เพศ และชีวิต

อีกประเด็นหนึ่งที่ควรค่าแก่การสนใจใน Money Heist คือเรื่องราวของเพศสภาพและเพศวิถีเรื่องราวที่ว่านี้ปรากฎอย่างเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ไปพร้อมกับการเผยภูมิหลังของตัวละคร และยิ่งทวีคูณความน่าสนใจ เมื่อวิถีทางเพศไม่ได้จำกัดกรอบของการกระทำ ทุกตัวละครได้เฉิดฉายและงดงามตามฉบับของตนเอง 

การปรากฎขึ้นของอัตลักษณ์ดังกล่าว กลายเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ ความกล้าหาญที่จะเป็นในสิ่งที่อยากเป็น คือเสน่ห์อย่างรุนแรงที่ทำให้ตัวละครใน Money Heist กลมมนไร้ร่องขรุขระ ต่างกันกับฝ่ายรัฐ ที่มองทุกอย่างเพียงแค่สองด้าน ซึ่งถ้าสังเกตแวดล้อมและบริบทพื้นที่ในซีรีส์ แคมป์ตำรวจของฝ่ายรัฐนั้น คือภาพแทนของการให้คุณค่า การสมาทานความเป็นชายอย่างเต็มเปี่ยม และมองความเป็นหญิงให้ผิดแปลก ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความชิงชัง ถือเป็นอีกหนึ่งจุดร่วม ของมวลมนุษย์โลก ที่เราต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

และเมื่อคุณค่าของความเป็นชายถูกตั้งคำถาม ผ่านการการสรรเสริญความหลากหลายทางเพศวิถีอีกหนึ่งสิ่งที่จะถูกชูขึ้นมาแทนที่ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่สังคมแห่งความเป็นชายไม่เคยแยแส นั่นคือ ‘คุณค่าของความเป็นแม่’ ซึ่งคุณค่านี้ ดูจะขัดกับบริบทของการปล้นและความรุนแรง แต่สำหรับข้าพเจ้า การขัดที่ว่านั้นมาจากทัศนะของสังคมแห่งความเป็นชาย ที่มีต่อสตรีเพศ กระทั่งผู้ที่มีความเป็นหญิง ว่าไร้ซึ่งกำลัง และต้องการการโอบอุ้มจากคนอื่น 

แต่สำหรับ Money Heist การมีอยู่ของ ‘ความเป็นแม่’ กลับไปตัวอุ้มชูความสัมพันธ์ของมนุษย์เอาไว้ และมีบทบาทสำคัญ สำหรับการพัฒนาคุณค่าในการที่จะมีชีวิตอยู่ และการที่คุณค่าของความเป็นแม่มาอยู่ในบริบทของการปล้นนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำ และเย้ยหยันสังคมปากว่าตาขยิบ ที่ขาวสะอาดเพียงเปลือกนอก แต่ภายในนั้น ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วทั้งโครงสร้างและมโนคติ

ท้ายนี้ Money Heist คือเรื่องราวของมนุษย์ ที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ บ้างต้องความเจ็บปวดและสูญเสีย บ้างพร้อมไปด้วย ความรักความอบอุ่น แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดนั่นคือความงดงามในความสัมพันธ์ ของมนุษย์ และเพราะคุณค่าต่างๆที่ว่านี้ ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศของการปล้น การดิ้นรนที่จะมีชีวิต และการสรรเสริญความหลากหลาย

มันจึงเป็นภาพและเรื่องราวที่ทรงพลังอย่างที่สุด


ภาพ: Netflix

Content Creator

  • ช่างภาพอิสระ ผู้อิสระทางการถ่าย แต่ไม่อิสระทางการเงิน รักแมวแต่เลี้ยงเต่า ชอบกินกะเพราแต่ไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบเจอผู้คนแต่รักในการเจออะไรใหม่ๆ แม้จะชอบใช้ชีวิตเดิมๆ