หากพูดถึงผู้ประกาศข่าวหญิงในไทย หลาย ๆ ท่าน ก็อาจจะมีหลาย ๆ ชื่อที่ปรากฏเข้ามาในหัวของท่าน แต่หากพูดถึงผู้ประกาศข่าวหญิงมากประสบการณ์ในไทย 1 ในชื่อที่ท่านนึกถึง ก็อาจจะมีชื่อของ “นารากร ติยายน” แว้บเข้ามาในหัว ผู้ประกาศข่าวหญิงวัย 57 ปีคนนี้เคยฝากผลงานไว้กับสถานีโทรทัศน์และสำนักข่าวหลายแห่งในไทยมาแล้วนับไม่ถ้วน
ต๊ะเริ่มต้นชีวิตในวงการทีวีด้วยการเป็นพิธีกรภาคสนามของรายการเกมโชว์ระดับตำนานอย่างรายการ “มาตามนัด” 1 ในรายการเกมโชว์สุดคลาสสิคของไทย ที่คนวัย 40+ ต้องเคยมีภาพจำกับรายการนี้มาไม่มากก็น้อย ในตอนนั้น ต๊ะสมัครเป็นพิธีกรภาคสนามด้วยความรู้สึกของตัวเธอเองว่า “อยากหางาน” หลังจากนั้นไม่ ต๊ะจึงเข้าทำงานให้กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในงานที่เกี่ยวกับฝ่ายผลิตรายการโทรทัศน์
ก่อนที่ในอีกไม่กี่ปีถัดมา เธอเองก็ได้เริ่มต้นชีวิตในสายงานด้านข่าว ด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี สถานีโทรทัศน์น้องใหม่ในขณะนั้น ที่ถือว่าเป็นสถาบันของคนข่าวระดับคุณภาพแห่งหนึ่งของเมืองไทย ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าวของช่องในเวลาถัดมา จนเวลาผ่านพ้นมาหลายปี เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงชื่อกลายเป็นสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ต๊ะก็ขึ้นมาทำหน้าที่ในรายการ “ฮอตนิวส์” แทนที่คุณกิตติ สิงหาปัด ที่ย้ายออกไปเป็นผู้ประกาศข่าวในช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี
“ทุกคนเก็บของกันหมดแล้ว เดี๋ยวคืนนี้เราจะกลับบ้านนะคะ ลาจริง ๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ” คือคำพูดสุดท้ายของต๊ะ บนหน้าจอของสถานีโทรทัศน์ที่ถือได้ว่าเป็นสถานีที่บ่มเพาะประสบการณ์ในวงการข่าวของเธอ ในคืนสุดท้ายของสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เมื่อคืนวันที่ 14 มกราคม 2551
เมื่อทีไอทีวีปิดตัวลง และแปรสภาพมาเป็นสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ต๊ะ และอดีตลูกจ้างของทีไอทีวีอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งรวมถึง 1 ในผู้ประกาศอย่าง “เชิงชาย หว่างอุ่น (หนึ่ง)” นั้นมีความคิดว่า “เราน่าจะมารวมกลุ่มกัน สร้างสรรค์งานข่าว แต่เอ๊ะ…เราจะมารวมตัวกันที่ไหนดีละ?” ในขณะนั้นทีมงาน ก็ได้ระบข้อเสนอจากสถานีโทรทัศน์หลากหลายช่อง แต่ในท้ายที่สุด ทีมข่าวชุดนี้ก็ตกลงปลงใจกัน ย้ายมาปักหลักทำงานให้กับบริษัทมีเดียออฟมีเดียส์ ซึ่งมีความฝันที่อยากให้ทีมข่าวชุดนี้ ทำรายการข่าว ทั้งรายการที่ออกอากาศบนสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และบนทีวีดาวเทียมที่ในปีนั้นกำลังมีหลายค่ายสนใจที่จะผลิตช่องบนทีวีดาวเทียม
ทีมข่าวชุดนี้ประเดิมผลงานแรกกับมีเดียส์ฯ ด้วยรายการข่าวแบบเจาะลึกที่ชื่อว่า “เจาะเกาะติด” ซึ่งได้เวลาที่ถือว่า “ค่อนข้างดึก” เพราะต้องออกอากาศในช่วงเที่ยงคืนครึ่งของวันจันทร์ – พฤหัสบดี
เจาะเกาะติด สร้างจุดเด่นให้ตัวเองด้วย Virtual Studio สุดล้ำ ที่สร้างความแตกต่างจากรายการข่าวในหลาย ๆ ช่อง ก่อนที่ในปีถัดมาต๊ะจะย้ายไปอยู่ในรายการ“ประเด็นเด็ด 7 สี” ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ช่อง 3 และช่อง 7 ต่างก็แข่งขันในสมรภูมิรายการข่าวหลังจบละครหลังข่าว
ต๊ะทำหน้าที่อยู่ในรายการยาวนานถึง 4 ปี จนถึงช่วงที่ทีวีดิจิทัลกำเนิดขึ้น ต๊ะก็ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่ง “ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานข่าว” ของช่องวัน 31 ควบคู่กับการสร้างทีมข่าวของช่องวัน และเป็นผู้ประกาศของช่องวัน 31 ซึ่งต๊ะใช้เวลาอยู่ในตำแหน่งนี้ราว ๆ 2 ปี ก่อนที่จะลาออกในช่วงปี 2559
ในช่วงต้นปี 2561 ต๊ะจะกลับมารับงานบนหน้าจออีกครั้งโดยการรับหน้าที่พิธีกรรายการ “จับประเด็นข่าวใหญ่” ทางช่อง ททบ.5 และในช่วงปลายปีเดียวกัน ต๊ะก็ยังมารับหน้าที่เป็นผู้ประกาศในรายการ “ข่าวเย็นอมรินทร์” ให้กับช่องอมรินทร์ทีวีอีกด้วย ก่อนที่ในอีกไม่กี่เดือนถัดมา ชื่อของต๊ะจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากหน้าจอทีวีดิจิทัลอีกสักพักใหญ่ ๆ
เกือบ 2 ปีถัดมา ช่วงปลายปี 2563 ต๊ะก็ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นพิธีกรของรายการ “เคลียร์ให้จบ” ที่ออกอากาศทางช่องเนชั่นทีวี ในช่วงที่เนชั่นกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในองค์กร ซึ่งด้วยประสบการณ์ในวงการข่าว ทำให้มีบุคคลส่วนหนึ่งนั้นชื่นชมการดำเนินรายการของต๊ะในรายการนี้ ก่อนที่ในอีกไม่กี่เดือนถัดมาต๊ะจะกลับมามีบทบาทบนหน้าจอทีวีดิจิทัลอีกครั้งด้วยการเป็น “พิธีกร” และ “หัวหน้าทีมงาน” ของรายการ “คมชัดลึก”
ปัจจุบัน ต๊ะได้ทำหน้าที่พิธีกรหลักในรายการ “เคลียร์ ชัด ชัด” ทางช่องเวิร์คพอยท์ เป็นงานหลัก นอกจากนี้เธอยังคงรับงานพิธีกรตามความเหมาะสม โดยเธอมีงานอดิเรกหลักคือการอยู่กับสุนัขของเธอที่ได้เลี้ยงเอาไว้อีกด้วย
ต๊ะกล่าวสำหรับผู้ที่อยากจะเป็นผู้ประกาศข่าวไว้ในรายการ “คมในฝัก” ว่า “สิ่งที่บอกคือมันไม่ใช่ว่าวันนี้คุณอยากเป็นผู้ประกาศข่าว วันนี้คุณอยากเป็นพิธีกรเลย คุณจะเข้าไปเป็นพิธีกรเลย ไม่ได้” ซึ่งเช่นเดียวกับต๊ะ และอีกหลาย ๆ คน ที่ล้วนแล้ยแต่เคยผ่านการฝึกฝนประสบการณ์อยู่นานหลายปี ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าวและพิธีกรคนหนึ่งได้