“อย่าเปลี่ยนใจ – อย่าหมดไฟ – อย่าหยุดฝัน”
คำพูดข้างบนเป็นคำพูดที่สุภาพบุรุษประชาธิปไตย ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หรือ ‘เอก’ นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 วันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคดีตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นคำพูดที่เติมไฟเวลาที่ท้อในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไปของใครหลาย ๆ คน
ธนาธรเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2521 เกิดในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คน จบการศึกษาชั้นประถม-มัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบปริญญาตรีภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (หลักสูตรนานาชาติ); Twinning Engineering Programmes (TEP) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ และเรียนต่อ ป.โท อีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการเงินโลก Master of Science in Global Finance The Hong Kong University of Science and Technology and New York University และ สาขากฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยแซงต์ กาลเลิน สวิตเซอร์แลนด์ (International Business Law, University of St. Gallen)
ขณะที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ธนาธรก็มีความสนใจในการทำกิจกรรมทางสังคมและกิจกรรมนักศึกษา โดย ‘ค่ายสร้าง’ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นับเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ความคิดและอุดมการณ์ของเขาค่อยๆเติบโตขึ้น ในปี พ.ศ.2542 ได้รับเลือกกเป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) เป็นการเปิดโลกเข้าสู่พื้นที่ทางการเมือง และในปี พ.ศ. 2543 ได้รับเลือกเป็นรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
ธนาธรได้เข้าร่วมกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนและเรียกร้องความเป็นธรรมทางสังคมกับผู้คนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสมัชชาคนจน กรรมกรไทยเกรียง ไปจนถึงกรณีการประท้วงเรื่องสิ่งแวดล้อมของโครงการท่อก๊าซ ไทย-มาเลย์ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้เป็นอาแท้ ๆ ของเขาเองที่อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรในเวลานั้น
ธนาธรไม่เคยมีความฝันที่อยากจะเป็นนักธุรกิจ แต่มีความฝันที่อยากจะทำงานในองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) ช่วยเหลือประชาชนในประเทศแอลจีเรีย ทวีปแอฟริกา แต่เมื่อบิดาของเขาเสียชีวิตลงทำให้เขาต้องเข้ารับตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิททันทีด้วยอายุเพียง 23 ปีในขณะนั้น ธนาธรนำพาไทยซัมมิทเจริญเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำยอดขายสูงสุดถึง 26,000 ล้านบาท และบุกตลาดอาเซียนและอินโดจีน รายได้ของไทยซัมมิทเติบโตขึ้นจากราว 16,000 ล้านบาทในปี 2544 เป็น 80,000 ล้านบาทในปี 2560 เขาปรับธุรกิจของครอบครัวให้กลายเป็นกลุ่มบริษัทระดับโลกที่มีโรงงานผลิตใน 7 ประเทศ รวมจำนวนพนักงานมากถึงราว 16,000 คน
วันที่ 15 มีนาคม 2561 ธนาธรและปิยบุตร พร้อมกับผู้ร่วมจดจัดตั้งอีก 24 คนได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ (Future Forward Party) ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยจะสร้างการเมืองแบบใหม่อย่างสร้างสรรค์และให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2562 ธนาธรได้เข้าร่วมกิจกรรมงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 ตลอดทั้งงานก็มีนิสิต นักศึกษา รวมถึงประชาชนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูป ต่อมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์คลิปขณะที่นายธนาธร เดินผ่าน และมีเสียงตะโกนขึ้นว่า “ฟ้ารักพ่อ” และธนาธรก็หันมายิ้มให้ ต่อมาก็มาทวีตข้อความว่า “วันนี้มา #tucuball73 มีแต่คนทักผมว่า #ฟ้ารักพ่อ ไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ อย่าลืมไปเลือก #อนาคตใหม่ กันนะคับ” จากนั้นกระแสความนิยมต่อ #ฟ้ารักพ่อ ในโลกออนไลน์มากขึ้น จุดนี้ทำให้เยาวชนคนหนุ่มสาวเข้ามาสนใจในการเมืองและพรรคอนาคตใหม่มากขึ้น
ผลการเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 3 กวาดที่นั่ง ส.ส.กว่า 81 ที่นั่ง แต่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญก็สั่งให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว ในคดีถือหุ้นสื่อ ถึงแม้จะถูกสกัดกั้นไม่ให้ทำหน้าที่สภาแต่ก็ยังคงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ ถึงจะไม่ได้เข้าสภา แต่ก็ยังคงทำงานกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ต่อมาวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
หลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ ก็ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไปในนาม ‘คณะก้าวหน้า’ เพื่อรณรงค์การขับเคลื่อนทางความคิดแบบก้าวหน้า และเขย่าการเมืองท้องถิ่น และยังคงมีกิจกรรมดี ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพื่อขับเคลื่อนสังคม อาทิ โครงการ “ก้าวหน้ากู้วิกฤติกิ่งแก้ว”โดยคณะก้าวหน้าได้รวบรวมอาสาสมัครกว่า 30 คน เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากกรณี #ไฟไหม้กิ่งแก้ว ที่ผ่านมา
หลังม่านการเมือง เวลาว่างคุณธนาธรยังชอบอ่านหนังสือ และเล่นกีฬาและกิจกรรมผาดโผนต่าง ๆ อาทิ ปีนเขา พายเรือคายัค วิ่งระยะไกล ขี่จักรยานทางไกล และเคยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้วหลายรายการ
