fbpx

จาก 42 ปีที่แล้ว ที่ “ตือ” ในวัย 21 ปี จัดดิสเพลย์ตามห้าง เงินเดือนเพียง 3,200 บาท แต่ทุกวันนี้ “ป้าตือ สมบัษร ถิระสาโรช” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตือ จำกัด ในวัย 62 ปี คือออร์แกไนซ์เซอร์เบอร์ 1 ของประเทศไทย

42 ปีก่อน “ตือ สมบัษร” บัณฑิตสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินทางมาจากบ้านเกิดที่ลำปาง เข้าสู่เมืองหลวงมาหางานทำ ตือบอกตัวเองว่า เราต้องการเป็นคนมีเงิน มีชื่อเสียง เขียนไว้เหนือเตียง ด้วยความที่ยังทำอะไรไม่เป็น แต่อยากมีงาน จึงไม่เลือกงาน ไม่เกี่ยงเงินเดือน งานแรกในชีวิตของตือจึงเป็นดิสเพลย์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เงินเดือนแค่ 3,200 บาท ก่อนจะออกไปทำงานโปรดิวเซอร์ได้ 10 ปี แล้วออกมากำกับหนังโฆษณาอีก 2 ปี กระทั่งจุดเปลี่ยนในชีวิต ที่เพื่อนชวนตือมาทำงานด้านออร์แกไนซ์ คือแฟชั่นโชว์แบรนด์เสื้อผ้า เมตตา ทำให้ตือเป็นที่รู้จัก และได้เปิดเป็นบริษัทอีเวนต์มาจนถึงทุกวันนี้

พ่อกับแม่ของตือสอนเสมอว่า ทำอะไรก็ตามต้องทำให้มันเต็มที่ จนทุกวันนี้ตือต้องเปิด-ปิดงานกับลูกค้าเองหมด วางแผนต่างๆ แต่ละงานก็จะไปเอง ไปดูว่าลูกน้องทำได้ถูกต้องตามโจทย์ของลูกค้าหรือเปล่า ทำตามที่ตั้งไว้ไหม ดูการซ้อม โชคดีที่มีทีมงานเก่งหลายคนมาทำงานกับบริษัท และอยู่กับตือเป็นสิบๆ ปี ทำให้คนเชื่อใจ มีงานทุกอาทิตย์

“วันนี้ถ้าคุณแฮปปี้กับสิ่งที่คุณทำ คุณทำเสร็จแล้ว คุณพอใจแล้ว แล้วคิดว่าคุณแฮปปี้รึยัง ถ้ามีสิ่งอื่นที่คุณยังไม่ได้ทำก็ไปทำ คิดแค่นั้นจริง ๆ ตือไม่ได้คิดว่าเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่เลยในชีวิตด้วยความสัตย์จริง ทำอะไรคือตือคิดว่า ต้นทุนคือความจริงใจ กำไรคือใจคน ถ้าคุณคิดเรื่องเงินคือคุณตาย”

หลักการทำงานของตือ ห้ามมีคำว่า “ไม่” เกิน 3 ครั้ง โกรธใครต้องเรียกมาคุยเลยไม่เก็บไว้ในใจ ต้องพูดขอโทษได้เสมอ ในหัวคิดแต่เรื่องดีๆ และงานสำคัญคืองานชิ้นล่าสุด ไม่มีใครจำงาน 100 งานที่ผ่านไปแล้วได้ จึงต้องทำงานล่าสุดให้ดีที่สุด

ป้าตือในวัย 62 ปี ยังต้องการหาสิ่งใหม่ ๆ มาทำในชีวิต จึงหันมาทำงานด้านดิจิทัลออนไลน์ จึงเกิดเพจ “ตือสนิท” โดยอยากเป็นพื้นที่เล็กๆ  และอยากทำให้คนมีความสุขเวลาที่ได้ดูคอนเทนต์ของตือ จนนำไปสู่รายการ “ตือไลฟ์” ซึ่งเป็นการเจาะตลาดออนไลน์ครั้งสำคัญ โดยการ live ขายสินค้าในรูปแบบวาไรตี้ ผสานกับกลยุทธ์ ‘รีเทลเทนเมนท์’ (Retail + Entertainment) สร้างประสบการณ์การชอปปิ้งใหม่ให้ลูกค้าสนุกไปพร้อมกับรู้จักแบรนด์ เพราะการจะทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้ายุคใหม่ได้ ต้องใช้พลังทางออนไลน์ ทั้งการนำเสนอสินค้าด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเน้นขายสินค้าเสมอไป แต่ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น ต้องค่อยๆ สร้างฐานลูกค้าจากกลุ่มคนทั่วไปให้รู้จักแบรนด์ก่อน หลังจากนั้นจึงเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

“Retailtainment เป็นเสน่ห์ของการช้อปปิ้งในยุคปัจจุบัน เพราะมีทั้งเรื่องของ ‘ช้อปปิ้ง’ และ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์์’ มารวมกัน เพื่อสร้างเสน่ห์ในการช้อปปิ้งและทำให้คนมีความรู้สึกร่วม เพราะฉะนั้น ถ้าเมื่อไรแบรนด์ทำให้คนรู้จักตัวตนของคุณ รู้จักดีเอ็นเอของคุณ และร่วมอินเทอร์แอคกับคุณได้ คือคุณมีกำไรแล้ว คุณชนะแล้ว”

ป้าตือได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในวงการและนอกวงการมาตลอด เชื่อว่าประเทศไทยมีบุคลากรที่เก่งเยอะ ทุกสายอาชีพเก่ง และพัฒนาเท่าระดับสากล หลายคนเขาเติบโตไปได้ เก่งขึ้น เป็นที่รู้จักก็มาจากศักยภาพที่เขามี

Content Creator