เวียนบรรจบครบอีกปีที่ทีวีดิจิทัลจะสรุปรายได้ โดยเฉพาะฝั่งที่เป็นทีวีดิจิทัลในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหลายที่ต้องรายงานให้ประชาชนและนักลงทุนรับทราบ ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ทีวีดิจิทัลหลายเจ้าก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด ชนิดที่ว่าสูสีทั้งคอนเทนต์ เรตติ้ง และฐานผู้ชมกันเลยทีเดียว ท่ามกลางเม็ดเงินโฆษณาและสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นอย่างมาก วันนี้เทยติดจอขอส่องรายได้ 8 บริษัทที่ทำทีวีดิจิทัลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาให้ได้ติดตามกัน

อันดับที่ 1
ONEE ยังครองตลาดหมดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

อันดับ 1 ที่รายได้สูงที่สุด และยังคงคว้าอันดับ 1 บริษัทที่ทำกำไรสูงที่สุดในปีนี้ในกลุ่มทีวีดิจิทัลที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หนีไม่พ้น ONEE ที่ครองทั้งช่องวัน 31 และยังเป็นตัวแทนการตลาดในช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ที่ปีนี้คว้ารายได้ 6,669.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 426.22 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้จะลดลงจากปีที่แล้วจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังคงมีความสามารถในการพัฒนาคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหัวหอกอย่างละครของช่องวัน 31 ที่ครองความนิยมไปเป็นอย่างมาก และซีรีส์วายจากจีเอ็มเอ็มทีวีที่ยังคงครองความนิยมไปยังต่างประเทศได้ดี

อันดับที่ 2
ช่อง 3 ปีนี้รุกตลาดบริหารจัดการนักแสดง “หลิง-ออม” ชูโรง

ช่อง 3 หรือ BEC ในปี 2567 คว้ารายได้ไป 4,262.45 ล้านบาท และมีกำไรเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มทีวีดิจิทัล ซึ่งคว้ากำไรไปทั้งสิ้น 96.27 ล้านบาท ที่ผ่านมา BEC ได้ขยายฐานการผลิตคอนเทนต์ โดยร่วมทุนกับ M Studio ในการสร้างภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ทั้ง “มานะแมน” และ “ธี่หยด 2” ที่สร้างรายได้มากกว่า 800 ล้านบาทเลยทีเดียว ยังไม่นับถึงการบริหารศิลปินในสังกัดอีกด้วย เช่น หลิง-ออม เป็นต้น

อันดับที่ 3
อมรินทร์ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อครบวงจร

ปีนี้อมรินทร์เป็นอีกกลุ่มที่พุ่งแรงเช่นกัน ซึ่งนอกจากกลุ่มทีวีแล้วยังมีอีกหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ การจัดจำหน่าย การทำ Event โดยกลุ่ม AMARIN มีรายได้รวมจากทุกช่องทางอยู่ที่ 4,167.43 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ประมาณ 120 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.50 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนประมาณ 205 ล้านบาท

เจ้าอื่นๆ ขาดทุนหมดยกแผง!

ส่วนที่เหลือตั้งแต่อันดับ 4-8 พบว่าทั้งหมด “ขาดทุนสุทธิ” ทุกบริษัท ตั้งแต่ RS ที่งวดนี้ขาดทุนมากกว่า 313.29 ล้านบาท ซึ่งมาจากหลายปัจจัยในหลายธุรกิจของบริษัท, เวิร์คพอยท์ที่ปีนี้ขาดทุนไปกว่า 241.64 ล้านบาท และมีแผนที่จะไม่ทำละคร รวมถึงการหารายได้ใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มติม, โมโน ที่งวดนี้ขาดทุนไป 796.71 ล้านบาท, อสมท ที่ขาดทุนไป 316.71 ล้านบาท และเนชั่น ที่ขาดทุนมากที่สุดในบรรดา 8 อันดับ ด้วยยอดขาดทุนปีนี้ 845 ล้านบาท

ปี 2568 จะเป็นอีกปีที่ยังคงต้องเผชิญสภาวะทางเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาต่อเนื่อง จนอาจทำให้เม็ดเงินโฆษณาไม่โตไปกว่าเดิม และในขณะเดียวกันทีวีดิจิทัลก็ยังแข่งขันกันดุเดือด ท่ามกลางความไม่แน่นอนในการต่อใบอนุญาตทีวีดิจิทัลจาก กสทช. รวมถึงการปรับลดขนาดองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการหนี Digital Disruption ที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้นทุกวัน ยังไงก็ต้องรอดูความชัดเจนกันอีกที แต่ผมรับรองได้ว่าปีนี้เป็นอีกปีที่ดุเดือดแน่นอน!

Content Creator

  • ณตภณ ดิษฐบรรจง

    บรรณาธิการบริหาร THE F1RST แมกกาซีนออนไลน์ที่เล่าทุกเรื่องราวให้เข้าใจง่าย ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่